blog cover

ฉีดสเต็มเซลล์ สามารถช่วยชะลอวัยได้จริงหรือไม่ ?!

vitalia-wellness-center

ฉีด สเต็มเซลล์ เป็นอีกแนวทางทางเลือกการรักษาที่น่าสนใจ มีการวิจัยมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน จนกระทั่งทำให้เห็นถึงผลลัพธ์และประสิทธิภาพที่ชัดเจนของการฉีดสเต็มเซลล์ การฉีดสเต็มเซลล์นั้นมีหลายคุณประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสเต็มเซลล์ในจุดต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อรักษาแก้ไขปัญหาการบาดเจ็บต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

รวมทั้งการฉีดสเต็มเซลล์เพื่อคงความอ่อนเยาว์ชะลอวัย ทำให้คงความสวยเอาไว้ได้อย่างยาวนานแม้อายุจะมากขึ้นแล้ว แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเข้ารับบริการ ก็จะต้องมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการฉีดสเต็มเซลล์ซะก่อน ซึ่งเราก็ได้นำความรู้ดี ๆ มาฝากคุณกันแล้ว

สเต็มเซลล์ คืออะไร

สเต็มเซลล์ คืออะไร

สเต็มเซลล์ คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่มีความพิเศษ โดยเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างเซลล์อื่น ๆ ในร่างกาย สเต็มเซลล์จะแบ่งตัวเพื่อสร้างเซลล์ลูกออกมาในร่างกายของเรา โดยเซลล์ลูกที่ได้รับการแบ่งตัวออกมานี้จะมีหน้าที่เฉพาะเป็นของตัวเอง เช่น เซลล์เม็ดเลือด เซลล์สมอง เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ หรือเซลล์กระดูก เป็นต้น ไม่มีเซลล์อื่นใดในร่างกายที่มีความสามารถในการสร้างเซลล์ชนิดใหม่เหมือนสเต็มเซลล์

ฉีด สเต็มเซลล์ มาจากไหน

Stem cell มาจากไหน

Stem cell หรือ เซลล์ต้นกำเนิดเป็นเซลล์พิเศษที่พบได้ทั่วร่างกาย ซึ่งมีความสำคัญต่อการซ่อมแซมและการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังใช้ในการรักษาทางการแพทย์ โดยจะแบ่งที่มาของ Stem cell ออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิดจากร่างกาย และเซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อน ในร่างกายของมนุษย์จะพบเซลล์ต้นกำเนิดจากในสมอง เลือด ผิวหนัง ไขกระดูก และสามารถพบได้ในเนื้อเยื่อหลายประเภท เช่น

  • กระจกตา
  • ระบบทางเดินอาหาร
  • ตับ
  • ตับอ่อน
  • จอประสาทตา

ส่วนเซลล์ที่ได้มาจากต้นกำเนิดตัวอ่อน เรียกว่า inner cell mass ซึ่งพบได้ในตัวอ่อนของมนุษย์หรือสัตว์ที่ยังอยู่ในครรภ์ และยังอยู่ในระยะ blastocyst หลังจากการปฏิสนธิเพียง 3-5 วัน ก็จะเจอสเต็มเซลล์ชนิดนี้แล้ว

ฉีดสเต็มเซลล์ มีกี่ประเภท

ประเภทของสเต็มเซลล์

เซลล์ต้นกำเนิด เป็นเซลล์ประเภทหนึ่งที่มีความสามารถเฉพาะตัว ในการพัฒนาและแบ่งตัวออกเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่เฉพาะด้านต่าง ๆ ประเภทของสเต็มเซลล์ในที่นี้เราจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือและเซลล์ต้นกำเนิดจากร่างกาย

1. เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ

เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ หรือ เรียกว่า Umbilical Cord - Mesenchymal Stem Cell (UC-MSCs) เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีต้นกำเนิดมาจากสายสะดือที่เชื่อมต่อกับทารกในครรภ์ และมีความสามารถที่จะกลายเป็นเซลล์อื่น ๆ ที่สามารถทำหน้าที่ในระบบต่าง ๆ ของร่างกายได้ สามารถนำไปใช้ในการรักษาได้หลายทาง ดังนี้

  • แปลงเป็นเซลล์ที่ต้องการ เช่น เซลล์กระดูก, เซลล์กล้ามเนื้อ, และเซลล์เลือด
  • ช่วยลดการอักเสบในจุดต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ลดอักเสบในข้อของผู้ป่วยที่เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis), ลดการอักเสบและการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในโรคลูปัส (Lupus) หรือ ลดการอักเสบในระบบทางเดินหายใจที่เป็นผลมาจากการติดเชื้อวัณโรค

2. เซลล์ต้นกำเนิดจากร่างกายของผู้ใหญ่

พบได้ในเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย เช่น เลือด ไขมัน ไขกระดูก ผิวหนัง ตับ และสมอง ซึ่งเซลล์ต้นกำเนิดจากแหล่งที่มาต่าง ๆ ในร่างกายก็จะทำหน้าที่ผลิตลูกเซลล์ที่แตกต่างกันไปด้วย เช่น เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในไขกระดูก ก็จะทำหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดได้หลายประเภท เป็นต้น สเต็มเซลล์ในผู้ใหญ่มีบทบาทสำคัญในการรักษาและซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย นำมาใช้ในการบำบัดรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู และการรักษาโรคหรือการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเยื่อเฉพาะ

ประโยชน์ของการฉีด สเต็มเซลล์

1. การรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด

โรคที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดอาจทำให้เนื้อเยื่อหัวใจขาดออกซิเจน ทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อแผลเป็นขึ้นมา ซึ่งทำให้ความดันโลหิตหรือการไหลเวียนของเลือดเปลี่ยนแปลงไป จากการวิจัยพบว่า เซลล์ต้นกำเนิดจากไขกระดูกของผู้ใหญ่สามารถช่วยในการซ่อมแซมหลอดเลือดและหัวใจได้

2.ช่วยสมานแผลและรักษาบาดแผล

ผลการศึกษาพบว่าการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ สามารถช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อผิว สร้างผิวหนังใหม่ที่มีความแข็งแรง เพิ่มการผลิตคอลลาเจน กระตุ้นการพัฒนาช่วยในการสร้างเส้นผม และช่วยทดแทนเนื้อเยื่อแผลเป็นด้วยเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดีที่พัฒนาขึ้นมาใหม่

3. โรคแพ้ภูมิตัวเอง

การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรง และอาการป่วยนั้นทำให้ร่างกายอ่อนแอ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคลูปัส โรคแพ้ภูมิแพ้ตนเองจะเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณหันมาโจมตีเนื้อเยื่อ เซลล์ และอวัยวะของตัวเอง แทนที่จะทำหน้าที่ป้องกันร่างกายของคุณจากอันตรายที่มาจากภายนอก

4. รักษากระดูกและข้อ

ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก โรคกระดูกสันหลัง และการบาดเจ็บของนักกีฬา สามารถใช้การฉีดสเต็มเซลล์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกได้

สเต็มเซลล์หน้าใส

สเต็มเซลล์กับความงาม

นอกเหนือไปจากจุดประสงค์ในการฉีดสเต็มเซลล์เพื่อการรักษาโรค หรือการเยียวยาปัญหาร่างกายต่าง ๆ แล้ว ในเรื่องของความงาม การฉีดสเต็มเซลล์ก็จะยังช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมผิว เพิ่มความกระชับ ทำให้ริ้วรอยจางลง และเสริมสุขภาพผิวจากภายใน และในขณะเดียวกันยังช่วยในการสร้างโปรตีนไซโตไคน์ ซึ่งจะช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวเพิ่มเติมอีกด้วย

ใครควรฉีดสเต็มเซลล์

ผู้ที่เหมาะสมกับการเข้ารับการฉีด สเต็มเซลล์

ผู้ที่อาจได้รับประโยชน์จากการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ ได้แก่ ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง เบาหวานชนิดที่ 1 โรคพาร์กินสัน โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (amyotrophic lateral sclerosis) โรคอัลไซเมอร์ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง แผลไหม้ และโรคข้อเข่าเสื่อม ตลอดจนผู้ที่สนใจอยากดูแลตัวเองด้วยเวชศาสตร์ชะลอวัยจากการฉีดสเต็มเซลล์ และผู้ที่หวังผลอยากเสริมสร้างความสวยด้วยการฉีดสเต็มเซลล์

ตำแหน่งฉีดสเต็มเซลล์

ตำแหน่งฉีดสเต็มเซลล์

ตำแหน่งของการฉีดสเต็มเซลล์ สามารถฉีดได้ในหลายตำแหน่งของร่างกาย เช่น

  • การให้สเต็มเซลล์ทางหลอดเลือดดำ วิธีนี้จะต้องได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเท่านั้น ขั้นตอนนี้มักจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
  • ฉีดเข้าไปในบริเวณช่องกระดูกสันหลัง ขั้นตอนนี้เป็นการฉีดสเต็มเซลล์เข้าไปในช่องกระดูกสันหลังโดยตรง ทำให้เซลล์เข้าถึงสมองและไขสันหลังได้โดยตรง ขั้นตอนนี้จะต้องทำภายใต้สภาวะปลอดเชื้อ มักใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  • ฉีดเข้าสู่กล้ามเนื้อโดยตรง เป็นขั้นตอนที่ปลอดภัยมากที่สุด และไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ ขั้นตอนนี้ส่วนใหญ่จะใช้เมื่อจำเป็นต้องฉีดสเต็มเซลล์ในปริมาณเล็กน้อย ตำแหน่งที่เหมาะสมในการฉีดสเต็มเซลล์ ได้แก่ หัวเข่า ต้นขา และสะโพก สเต็มเซลล์จะเข้าไปถึงบริเวณเป้าหมายได้โดยง่าย และเริ่มกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูจากภายใน

การดูแลตัวเองก่อนฉีดสเต็มเซลล์

การดูแลตัวเองก่อนฉีดสเต็มเซลล์เหมือนกับการทำหัตถการหรือการทำศัลยกรรม ฉีดสเต็มเซลล์ การฉีดสเต็มเซลล์ก็จะต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่จะทำการฉีดจริงด้วยโดยมีคำแนะนำดังนี้

  • แจ้งให้คุณหมอทราบว่า คุณทานยา ทานอาหารเสริม ทานสมุนไพรตัวไหนอยู่บ้างเป็นประจำ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  • งดอาหารประเภทของมัน หรือของทอด ก่อนและหลังฉีดประมาณ 2-3 วัน
  • ไม่ทำหัตถการอื่น ๆ เช่น การทำเลเซอร์ ดูดไขมัน อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ และทำจิตใจให้สบายไม่ต้องเครียด นอนให้ครบ 7 - 8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการฉีดสเต็มเซลล์

ขั้นตอนการฉีดสเต็มเซลล์

ก่อนทำหัตถการชนิดนี้ คุณจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายและเช็คประวัติทางการแพทย์ เพื่อนำมาพิจารณาว่าผู้ป่วยเหมาะสมสำหรับการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์หรือไม่

1. ฉีดสเต็มเซลล์เข้าสู่ร่างกายในจุดต่าง ๆ

คุณหมอจะทำการฉีดสเต็มเซลล์เข้าไปในเนื้อเยื่อหรือข้อต่อที่ต้องการ บริเวณที่ฉีดอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแนวทางการรักษาของแต่ละคน เช่น ข้อต่อ ผิวหนัง กล้ามเนื้อ และอื่น ๆ

2. สังเกตอาการ

หลังจากที่ทำการฉีดเสร็จคุณหมอจะให้ผู้เข้ารับบริการนอนหรือนั่งประมาณ 30 – 40 นาที เพื่อสังเกตอาการ ทำให้แน่ใจว่าไม่เกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ตามมา หลังจากตรวจสอบร่างกายเรียบร้อยแล้วก็กลับบ้านพักผ่อนได้ตามปกติ

การดูแลตัวเองหลังฉีดสเต็มเซลล์

  • งดทาครีมบำรุง ครีมกันแดด และงดการใช้เครื่องสำอางทุกชนิด ในบริเวณที่ฉีด อย่างน้อย 1 วัน
  • ข้อห้าม หลังฉีด สเต็มเซลล์ งดทำเลเซอร์ ทรีตเมนต์ และอบซาวน่า อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • ควรประคบเย็น 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน ๆ ควรสวมหมวกหรือกางร่มทุกครั้ง
  • ฉีดสเต็มเซลล์ ผลข้างเคียง อาจจะทำให้เกิดอาการบวม หรือมีรอยเขียวช้ำบ้างในช่วงสัปดาห์แรก แต่อาการจะค่อย ๆ ทุเลาลงภายใน 1 – 2 สัปดาห์และหายไปเอง

ทำไมต้องฉีดสเต็มเซลล์กับ Vitalia Wellness Clinic

Vitalia Wellness Clinic เป็นคลินิกที่ให้บริการและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเป็นพิเศษในเรื่องของศาสตร์การชะลอวัย และการบำรุงล้ำลึกถึงเซลล์ในร่างกาย และคุณหมอแชมป์มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจอยากฉีดสเต็มเซลล์ คือ ควรมีการล้างสารพิษ และให้วิตามินฟื้นฟูร่างกายก่อนการฉีดสเต็มเซลล์ เพื่อทำให้ร่างกาย มีความพร้อมที่สุดสำหรับการฉีดเซลล์ และเพื่อได้ผลลัพธ์ที่ต้องการในระดับสูงสุด ไม่ได้ใส่ใจเพียงแค่การฉีดสเต็มเซลล์เข้าสู่ร่างกายของคุณเท่านั้น แต่ยังใส่ใจตั้งแต่การปรับร่างกายพื้นฐานเพื่อให้รองรับการฉีดสเต็มเซลล์ให้ออกมาดีที่สุด

ฉีดเสต็มเซลล์กับ Vitalia Clinic มั่นใจกับทีมงานแพทย์มืออาชีพ

คุณหมอทุกท่านที่ให้บริการดูแลคุณและคนที่คุณรัก ฉีด สเต็มเซลล์ เป็นคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความรู้จบหลักสูตรทางด้านศาสตร์ชะลอวัย ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของการวางแผนโปรแกรมการรักษาให้กับลูกค้าทุกคนอย่างดีที่สุด มีการตรวจร่างกายทุกครั้งก่อนที่จะเข้าใช้บริการ ฉีดสเต็มเซลล์ ที่ไหน ดี ทำให้ผู้เข้ารับบริการไว้วางใจได้ ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการฉีดสเต็มเซลล์ที่เห็นผลจริง

แพทย์ Vitalia

นัดพบแพทย์

https://www.vitaliaclinicthailand.com/contact

อัปเดตบริการฉีดสเต็มเซลล์

ที่ Vitalia Wellness Clinic มีบริการฉีดสเต็มเซลล์ให้เลือกหลายราคา หากสนใจบริการดังกล่าว สามารถสอบถามได้ที่คลินิกโดยตรง หรือช่องทางติดต่ออื่น ๆ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ฉีดสเต็มเซลล์ใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะเห็นผล?

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของการรักษา ผู้ป่วยบางรายอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่ในขณะที่บางรายอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน เนื่องจากเซลล์ต้นกำเนิดต้องทำงานเพื่อซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ดังนั้นคุณควรมีความเข้าใจต่อการทำงานของสเต็มเซลล์ก่อนที่จะเข้ารับบริการ

2. การฉีดสเต็มเซลล์สามารถรักษาอาการใดบ้าง?

ใช้ในการรักษาและเยียวยา อาการบาดเจ็บทางกระดูกและข้อ ความผิดปกติของข้อต่อ (เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม) อาการทางระบบประสาท (เช่น โรคหลอดเลือดสมอง) โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงการฉีดสเต็มเซลล์เพื่อชะลอวัย

สรุป

ฉีดสเต็มเซลล์ เป็นอีกหนึ่งศาสตร์ทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับชะลอวัยและการรักษาสุขภาพร่างกายที่น่าสนใจ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเข้ารับบริการฉีดสเต็มเซลล์นี้ก็ขอแนะนำให้คุณทำการปรึกษากับคุณหมอเสียก่อน ขอให้คุณเตรียมข้อมูลมาให้ครบ ไม่ว่าคุณป่วยเป็นโรคอะไรมักจะเจอปัญหาทางด้านสุขภาพร่างกายอย่างไร หรืออยากจะฉีดสเต็มเซลล์เพื่อชะลอวัย ต้องการรักษาความสาวความสวยเอาไว้นาน ๆ ก็สามารถแจ้งต่อคุณหมอได้เลย คุณหมอจะได้นำข้อมูลในส่วนนี้ไปวางแผนโปรแกรมการรักษาที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณให้ได้มากที่สุด

ติดต่อนัดพบแพทย์

นัดพบแพทย์

https://www.vitaliaclinicthailand.com/contact

อ้างอิงจาก

All rights Reserved © Vitalia Wellness Clinic, 2023Privacy Policy