ไม่อยากพลาดเรื่องสำคัญจากอาการหลง ๆ ลืม มาป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่ Vitalia Wellness Center

เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น อาการหลง ๆ ลืม ๆ อาจกลายเป็นปัญหาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ถ้าอาการหลงลืมเพียงแค่เล็กน้อยก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร แต่หากมีอาการหลงลืมหนักมากขึ้น กลายเป็นปัญหาใหญ่แน่ เพราะอาจนำไปสู่โรคความจำเสื่อม ดังนั้น การป้องกันและดูแลสุขภาพสมองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย

หากคุณไม่อยากลืมเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำ หรือความสามารถในการดำเนินชีวิตประจำวัน Vitalia Wellness Center จึงอยากเชิญชวนให้คุณ มาเรียนรู้วิธีการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และรักษาสุขภาพสมองกับเราในบทความนี้กัน

ถ้าพ่อแม่เป็นอัลไซเมอร์ เราจะเป็นด้วยจริงไหม

ถ้าพ่อแม่เป็นอัลไซเมอร์ เราจะเป็นด้วยจริงไหม ตอบได้เลยว่า การมีพ่อแม่เป็นโรคอัลไซเมอร์ ก็จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เราเป็นโรคนี้ได้จริง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่มีพ่อแม่เป็นโรคอัลไซเมอร์จะต้องเป็นโรคนี้ด้วย ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สิ่งแวดล้อมในการใช้ชีวิตและพันธุกรรม ดังนี้

• ทำความรู้จักกับยีนความเสี่ยง (Risk Genes) : ยีน APOE ε4 เป็นยีนที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ โดยประมาณ 15-25% ของคนที่มียีนนี้มีโอกาสเพิ่มขึ้นในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่อย่างไรก็ตาม การมียีนนี้ไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องเป็นโรคอัลไซเมอร์แน่นอน แต่จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงเท่านั้น
• ยีนที่ชัดเจน (Deterministic Genes) : สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ชนิดเริ่มแรก Early-Onset Alzheimer's มักจะพบมากที่สุดในช่วงวัย 65 ปี ซึ่งจะมีการพบยีน 3 ชนิดที่เกี่ยวข้องกับการเป็นโรค ได้แก่ APP, PSEN1, และ PSEN2 ซึ่งถ้าในช่วงอายุนี้มีการเปลี่ยนแปลงของยีนทั้ง 3 ชนิดที่เราได้กล่าวมา ก็มีโอกาสสูงมากที่จะป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์
• ความเสี่ยงจากครอบครัว : หากมีพ่อแม่เป็นโรคอัลไซเมอร์ คนที่เป็นลูก ก็จะมีโอกาสสูงขึ้นในการเป็นโรคนี้ แต่ความเสี่ยงที่แน่นอนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับยีนที่ได้รับสืบทอดและปัจจัยสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ มาประกอบร่วมด้วย

คนอายุ 70 ขึ้นไปเท่านั้นที่จะเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ จริงไหม

• สำหรับความเชื่อที่ว่า มีแค่คนอายุ 70 ปีขึ้นไปเท่านั้นที่จะเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ ข้อมูลนี้ไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์จะเพิ่มขึ้นตามอายุนั้นเป็นเรื่องจริง แต่โรคอัลไซเมอร์นั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้ กับคนที่มีอายุน้อยกว่า 70 ปีด้วย ยิ่งถ้าหากคนในครอบครัวมีประวัติการป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ เป็นไปได้สูงว่า จะต้องเริ่มระวัง และหมั่นเช็กร่างกายตั้งแต่อายุ 30 ปีเป็นต้นไป เพราะมีโอกาสเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมและส่งผลให้เกิดโรคดังกล่าวในท้ายที่สุด

ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์

ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ เช่น

• สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด : ปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง ก็มีส่วนในการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์เช่นกัน
• วิถีชีวิต : การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม และการไม่สูบบุหรี่สามารถช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้

ถ้าลืมของบ่อย จะเท่ากับเป็นอัลไซเมอร์แล้วใช่ไหม

การลืมของบ่อย ๆ ไม่ได้หมายความว่าคุณป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์เสมอไป เพราะการหลงลืมเป็นเรื่องปกติ ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะเมื่อมีความเครียด หรือมีการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน แต่อย่างไรก็ตาม การหลงลืมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรง อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบปัญหาสุขภาพเพิ่มเติม

สาเหตุที่ทำให้เกิดการหลงลืม

สาเหตุที่ทำให้เกิดการหลงลืม เช่น

• ความเครียดและความกังวล : ความเครียดและความกังวล สามารถทำให้ความสามารถในการจดจำและจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ ลดลงได้ จนเกิดอาการหลง ๆ ลืม ๆ ในที่สุด
• การนอนหลับไม่เพียงพอ : การนอนหลับที่ไม่เพียงพอ จะทำให้สมองไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ส่งผลทำให้ความจำลดลง
• การขาดสารอาหาร : การขาดวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน B12 อาจทำให้ความจำเสื่อมลง
• การใช้ยาบางชนิด : ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดความจำเสื่อมชั่วคราว เช่น ยาแก้ซึมเศร้า (Antidepressants) Tricyclic antidepressants เช่น Amitriptyline อาจทำให้เกิดความจำเสื่อมได้ชั่วคราว
• สภาวะทางการแพทย์ หรือการป่วยเป็นโรคอื่น ๆ : เช่น ภาวะซึมเศร้า ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ และโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ที่สามารถส่งผลต่อความจำได้

เป็นเรื่องปกติที่จะเป็นอัลไซเมอร์เมื่ออายุมากขึ้น จริงไหม

เป็นเรื่องปกติที่จะเป็นอัลไซเมอร์เมื่ออายุมากขึ้น จริงไหมการเป็นโรคอัลไซเมอร์เมื่ออายุมากขึ้นไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดกับทุกคน แต่เป็นความจริงที่ว่า ความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อเรามีอายุมากขึ้น โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคเกี่ยวกับสมอง ที่ก่อให้เกิดการเสื่อมถอยของความสามารถในการคิดและความจำ การเสื่อมถอยนี้เกิดขึ้น เนื่องจากการสะสมของโปรตีนผิดปกติในสมองซึ่งเรียกว่า amyloid plaques และ tau tangles

เราจะป้องกันอาการอัลไซเมอร์ได้อย่างไร

ป้องกันอาการอัลไซเมอร์ได้อย่างไร แม้ว่าโรคอัลไซเมอร์จะไม่มีวิธีการรักษาที่สามารถหยุดการเสื่อมถอยของสมองได้ แต่ก็มีหลายวิธีที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคได้ การดูแลสุขภาพทางกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคนี้ มาดูวิธีป้องกันในเบื้องต้นกันเลย

การออกกำลังกายเป็นประจำ

การออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในสมอง และเสริมสร้างการทำงานของสมอง ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือขี่จักรยาน

การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง เช่น ​การทานอาหารแบบDASH DIET ที่เป็นการรับประทานอาหาร ตามหลักโภชนาการ และลดปริมาณโซเดียมและไขมันอิ่มตัว และเพิ่มการบริโภคใยอาหารที่มีผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ปลา และไขมันที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก ช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์

การออกกำลังกายทางจิตใจ

การออกกำลังกายทางจิตใจ หมั่นฝึกสมองด้วยกิจกรรมที่ท้าทายทางจิต เช่น การอ่านหนังสือ การเล่นเกมที่ต้องใช้การคิด การเล่นบอร์ดเกมที่มีกติกาซับซ้อน หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ จะสามารถช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองได้

การสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม

การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ การเข้าร่วมกิจกรรมสังคม หรือกลุ่มชุมชนต่าง ๆ จะช่วยส่งเสริมการทำงานของสมอง

การนอนหลับที่เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอและมีคุณภาพดี จะทำให้สมองได้พักผ่อนและฟื้นฟูอย่างเต็มประสิทธิภาพ การนอนหลับที่ไม่เพียงพอ มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเกิดโรคอัลไซเมอร์

Alzheimer’s Gene Test การตรวจยีนส์อัลไซเมอร์

หากคุณต้องการตรวจโรคอัลไซเมอร์อย่างลงลึก ขอแนะนำ Alzheimer’s Gene Test การตรวจยีนส์อัลไซเมอร์ เพื่อวัดระดับความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ระดับยีนส์ โดยประเมินว่าเราได้รับพันธุกรรมจากคนในครอบครัวหรือไม่ ทำให้เราเริ่มต้นดูเเลลดความเสี่ยง ป้องกันก่อนการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ สามารถตรวจได้โดยไม่ต้องงดน้ำและอาหาร และรู้ผลภายใน 714 วัน โดยผลตรวจออกมาเป็นค่าความเสี่ยง 3 ระดับ ได้แก่

• ระดับ 3-เสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป 20เท่า
• ระดับ 2-เสี่ยงเท่ากับคนทั่วไป
• ระดับ 1-เสี่ยงน้อยกว่าคนทั่วไปมาก

หากผลตรวจออกมามีความเสี่ยงสูงระดับ3 ต้องรีบฟื้นฟูสมองอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่จะเกิดขึ้น

หากตรวจพบยีนส์อัลไซเมอร์ ควรดูเเลอย่างไร

หากตรวจพบยีนส์อัลไซเมอร์ คุณหมอจะทำการประเมินก่อนว่า อัลไซเมอร์ อาการ มีความเสี่ยงระดับไหน 1-3 และนำไปวางแผนเพื่อดูแลคนไข้ต่อไป สามารถดูแลได้โดยการให้ Premium Brain Booster IVเพื่อช่วยฟื้นฟูสมองเสื่อม ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ลดความเสี่ยง และเพื่อช่วยฟื้นฟูความจำ การนอนหลับลึก อารมณ์ดี ปวดหัวไมเกรน นอกจากนี้ ยังต้องปรับพฤติกรรมทั้งหมดที่ลดความเสี่ยง เช่น นอนไวก่อน22:00 ควบคุมน้ำตาล ไขมันในเลือดให้ปกติ และกิจกรรมผ่อนคลายสมอง

ขอแนะนำแพ็กเกจ Keep Being Young โปรแกรมตรวจสุขภาพเชิงลึกและชะลอวัย

ขอแนะนำข้อมูลแพ็กเกจ Keep Being Young สุขภาพดีจากภายในด้วย Keep being Young Program สำหรับคนที่รักในการดูแลตัวเองด้วยศาสตร์ใหม่ โปรแกรมเพื่อการชะลอวัย โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีผิวสวยสุขภาพดี มีความแข็งแรงจากภายในในทุก ๆ ด้าน ด้วยโปรแกรมสุดพิเศษจาก Vitalia Wellness Center โปรแกรม Keep being Young Program เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจน

• ดูอ่อนเยาว์
• ผิวสวยย้อนวัย
• สุขภาพจากภายในสู่ภายนอก
• ฟื้นฟูล้ำลึกถึงระดับเซลล์
• อายุยืนยาว ไร้โรค

รักษาดูแลตัวเองกับ Vitalia Wellness Center ดีอย่างไร

การให้บริการของ vitalia Wellnes Center ครอบคลุมในทุก ๆ ด้านของสุขภาพ โดยเริ่มต้นตั้งแต่การปรึกษาทางการแพทย์ การตรวจร่างกายเบื้องต้น ไปจนถึงการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา และคำแนะนำเพื่อให้คุณมั่นใจว่าคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุด นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงต้อง รักษาดูแลตัวเองกับ Vitalia Wellness Center

การดูแลเอาใจใส่

การดูแลเอาใจใส่ เป็นสิ่งสำคัญที่ Vitalia Wellness Center เชื่อมั่น เพราะการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร ต้องเริ่มจากการเข้าใจความต้องการ และความเป็นเอกลักษณ์ของร่างกายแต่ละคน ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของเราจึงทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาการดูแลที่เฉพาะเจาะจง โดยใช้เทคโนโลยีและวิธีการที่ทันสมัย เพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับการดูแลที่ดีที่สุด

การตรวจวิเคราะห์ร่างกายระดับเซลล์

การตรวจวิเคราะห์ร่างกายระดับเซลล์ ของ Vitalia Wellness Center เราใช้เทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์ร่างกายระดับเซลล์ที่ทันสมัยที่สุด ประกอบด้วยการตรวจเลือด การวิเคราะห์ DNA และการตรวจหาความผิดปกติในระดับเซลล์ ซึ่งสามารถช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของสุขภาพของคุณและสร้างแผนการรักษาที่เฉพาะเจาะจงให้กับแต่ละบุคคลได้ เพื่อให้เราสามารถเข้าใจสภาวะของร่างกายได้อย่างละเอียดและแม่นยำ การตรวจวิเคราะห์นี้ช่วยให้เราสามารถตรวจพบปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

การรักษาด้วยสเต็มเซลล์สเต็มเซลล์

การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ เป็นหนึ่งในการดูแลพิเศษของเรา โดยสเต็มเซลล์มีความสามารถในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรค และอาการเจ็บป่วยหลากหลายประเภท ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ Vitalia Wellness Center ใช้สเต็มเซลล์ที่มีคุณภาพสูง และผ่านการรับรองมาตรฐานระดับโลก เริ่มต้นจากการปรึกษาและประเมินสภาพร่างกายของคุณ จากนั้นทีมแพทย์จะทำการเตรียมสเต็มเซลล์และดำเนินการฉีดเข้าสู่ร่างกายของคุณ การรักษาด้วยสเต็มเซลล์จะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้เร็วขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

แอปพลิเคชันติดตามผล

เรามีแอปพลิเคชัน ติดตามผลที่ทันสมัย เพื่อทำให้การดูแลสุขภาพของคุณเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้คุณสามารถติดตามผลการรักษา และปรับปรุงสุขภาพของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน แอปพลิเคชันของเรามีฟังก์ชันที่หลากหลาย เช่น การนัดหมายกับแพทย์ การบันทึกผลการตรวจ การรับคำแนะนำและข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ แอปพลิเคชันของเรา ยังมีระบบแจ้งเตือนที่ช่วยเตือนคุณในการทานยาและนัดหมายการตรวจสุขภาพต่าง ๆ เพื่อทำให้คุณไม่พลาดการดูแลสุขภาพที่สำคัญไป

ที่ Vitalia Wellness Center เรามุ่งมั่นในการมอบการดูแลและความเอาใจใส่ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทุกท่าน ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวิเคราะห์ร่างกายระดับเซลล์ การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ หรือแอพลิเคชั่นติดตามผล เราพร้อมให้บริการด้วยความใส่ใจและมุ่งมั่นในการพัฒนาสุขภาพของคุณให้ดีที่สุด

ติดต่อนัดปรึกษาแพทย์

Vitalia Wellness Center

Map: https://goo.gl/maps/6LeyqUBkA9P2

เวลาเปิดบริการ Tue-Sun เวลา 10:00 น.- 18:00 น.

Tel 02-077-7801

LineID : https://lin.ee/87PIlNqO